วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รีวิว โปรแกรมแต่งรูป Fotor ดาวน์โหลดฟรี [ภาคการเรียงรูป collage]

ท่านสามารถดูบทความอื่นๆที่เกี่ยวกับโปรแกรม Fotor ได้ที่นี่ครับ
 
    จากตอนแรก (ดูการแต่งภาพด้วย Fotor) ที่เรากล่าวถึงการแต่งรูปง่ายๆด้วย โปรแกรมแต่งรูป Fotor กันนะครับ คราวนี้เราก็อยู่ที่โปรแกรมเดิม แต่เราเปลี่ยนโหมดมาเป็นโหมด จัดเรียงรูป Collage


          อันนี้เป็นการเรียงรูปแบบ Collage นะครับ มีการจัดเรียงหลายแบบ จะเพิ่มรูปสัก 5-6 รูปมาจัดเรียงก็ยังได้




เปิดโปรแกรมมาเราก็จะเจอหน้าแรกนะครับ ให้เลือก Collage
สำหรับหน้าตาของโปรแกรมนะครับก็จะประกอบไปด้วย
อย่างแรกเราก็ต้องเพิ่มภาพก่อนนะครับ โดยคลิกที่ Add (ปุ่มสีฟ้าด้านซ้าย)
เมื่อเพิ่มภาพแล้วก็มาดูทีละเมนูกัน (เมนูด้านขวา)

Template เป็นการเรียงรูปที่มีรูปแบบแน่นอน
  • Select Ratio ก็จะให้เราเลือกขนาดภาพสุดท้ายว่าจะเป็น 1:1 (จตุรัส) หรือ 4:3 จากนั้นก็จะมาเลือก pattern ว่าจะเรียงรูปอย่างไร ใช้กี่รูป 
  • Border ก็จะเป็นการใส่กรอบรูป สามารถปรับความหนา(width) เงา (shadow) และความมนของขอบ (corners) ได้ครับ
Freestyle ก็จะเป็นการเรียงรูปตามอิสระใจของเรา
ในหน้า Freestyle ก็จะมีให้เลือก
  • Randomize ก็คือ การให้โปรแกรมสุ่มจัดภาพให้เรา
  • Background ก็สามารถใสรูปพื้นหลังได้ ไม่ว่าจะใส่เป็นรูป หรือพื้นหลังสี (color) ก็ได้ครับ
ส่วนสุดท้ายก็จะเป็น Export เราสามารถบันทึกลงคอมพิวเตอร์หรือส่งออกไปโพสต์ที่ Facebook หรือ Twitter ได้เลยครับ


เป็นอย่างไรบ้างครับกับการใช้โปรแกรม Fotor
สามารถย้อนไปดูบทความเกี่ยวกับ Fotor ได้ดังนี้นะครับ

รีวิว โปรแกรมแต่งรูป Fotor ดาวน์โหลดฟรี

          
ท่านสามารถดูบทความอื่นๆที่เกี่ยวกับโปรแกรม Fotor ได้ที่นี่ครับ
พอโหลดโปรแกรมเสร็จแล้ว (คลิก Fotor หรือจะ search จาก Download.com ก็ได้ครับ) เปิดไฟล์ติดตั้งแล้วเริ่มติดตั้งครับ


 เลือก I accept แล้วก็กด Next เลยครับ




หลังจากนั้นติดตั้งโปรแกรมจนเสร็จ








  จากนั้นก็เปิดรูปภาพ โดยเลือกที่ File --> Open

พอเปิดโปรแกรมขึ้นมาก็จะมีสามตัวเลือกให้เลือกครับ คือ 
         
Edit คือเข้าโหมดปรับแต่งภาพ ที่เราจะกล่าวถึงต่อไปครับ
Collage คือเข้าโหมดเรียงภาพ โดยเอาภาพหลายๆภาพมารวมกัน
Batch คือ ปรับแต่งภาพหลายๆภาพพร้อมกันในทีเดียว



โปรแกรม Fotor เป็นโปรแกรมแต่งรูปแบบพื้นฐานครับ เช่นฟังก์ชัน ปรับ contrast, white balance, saturation รวมถึงสามารถใส่ effect ต่างๆได้ครับ เช่น lomo, vignet, art สามารถเลือกกรอบรูปได้อีกด้วย








สำหรับเมนูหลักๆทางด้านขวานะครับ ก็จะมี


Scenes ก็จะเป็นการปรับแสง ปรับ contrast โดยตัวโปรแกรมจะกำหนดมาอยู่แล้วครับว่าจะปรับเท่าไร โดยจะมีให้เลือกหลายแบบ เช่น

  • Sunset ก็จะเป็นแสงสีแบบพระอาทิตย์ตกดิน
  • Portrait ก็จะเป็นการปรับแสงของรูปให้เหมาะกับรูปถ่ายบุคคล
  • Darken ก็จะปรับภาพให้มืดลง ทำให้บรรยากาศดูน่ากลัว
  • Food พอเลือกแล้วก็จะทำให้รูปอาหารของเราดูน่ากินมากขึ้น
Crop ก็จะเป็นการตัดภาพคับ พอเลือกแล้ว ก็จะมี 2 เมนูย่อย คือ

  • Straighten จะเป็นการปรับความเอียงของภาพ
  • Crop ก็จะเป็นการตัดภาพให้มีขนาดที่เราต้องการ ถ้าใครต้องการเอารูปเป็น profile ของ facebook ก็มาเลือก เป็น Square หรือถ้าจะเอารูปไปอัดที่ร้านก็เลือกเป็น 4x6 ก็ได้ครับ
Adjust ภายในก็มีหลายเมนูให้เลือกครับ ได้แก่
  • Red Eye Tool จะเป็นการลบตาแดง
  • Tone สามารถปรับแสงสีได้อย่างละเอียด สามารถปรับ Exposure, Brightness และ contrast หรือความเข้มของสีได้ครับ
  • Detail สามารถเลือกได้ว่าจะให้รูปเราดูเบลอ (Blur) (เหมาะกับสาวๆเพื่อลดรอยสิว) หรือให้มีรายละเอียดพื้นผิวเพิ่มขึ้น (Sharpen) 
  • White Balance จะเป็นตัวเลือกอุณหภูมิแสงของภาพ 
  • Vignette จะเป็นการใส่แรเงาดำๆที่ขอบของภาพ (ขอบมืด)
  • Highlights คือเพิ่มหรือลดความสว่างของส่วนสว่าง /Shadows คือเพิ่มหรือลดความสว่างของส่วนมืดของภาพครับ
  • Curve 
Effects ก็จะเป็นการใส่พวก Lomo, Black & White, Vignette, Art เป็นต้นครับ


Borders คือใส่กรอบให้รูป มีให้เลือกหลายแบบ
Tilt-Shift คือการกำหนดส่วนของภาพว่าจะให้ตรงไหนเบลอ เป็นการเน้นจุดที่เราต้องการให้เห็นชัดเจน สามารถเลือกได้ทั้งแบบกลมและเหลี่ยม
Text สามารถใส่ตัวอักษรได้
Export ตรงนี้สามารถเอารูปลง Facebook, Twitter ได้เลยครับ หรือจะเก็บลงคอมก็ได้ครับ 

ใครสนใจสามารถไปโหลดได้ที่ Fotor พอเข้าไปแล้วก็คลิก Download ได้เลยครับ
สำหรับท่านที่ลงโปรแกรมแล้วต้องการดูส่วนจัดเรียงรูป (collage) สามารถคลิกได้ที่นี่เลยครับ การจัดเรียงรูป (collage) ด้วย Fotor

ด่วน แอพฟรี โปรแกรมฟรี โปรแกรมแต่งรูป DxO Optics Pro 8 Elite ฟรี

ชื่อแอพ: DxO Optics Pro 8 Elite
ราคาเดิม:  US$199 (6,000 กว่าบาท)
Limitation:ลงได้ 2 เครื่อง ใช้ได้ทั้ง Home Use หรือ Business Use ไม่มี free update ไม่มี support สามารถลงซ้ำได้ถ้าเก็บ key หรือ ไฟล์ติดตั้งไว้ และขายต่อไม่ได้

สามารถลงได้ทั้ง Windows (xp ขึ้นไป) และ MAC OS X ครับ

DxO เป็น โปรแกรมแต่งรูป ระดับ profession ครับ สามารถปรับ white balance ปรับ shadow ได้ ปรับ highlight ได้ รวมถึงการแก้ไขภาพถ่ายแบบมืออาชีพครับ ใช้งานง่าย รองรับไฟล์ RAW ด้วย

รีบหน่อยนะครับ โปรแกรมแต่งรูป ดีๆแบบนี้ เหลือเวลา อีก 18 วัน

แจกฟรีจาก SharewareOnSale ครับ

เข้าไปยังลิงค์ (อยู่ด้านล่างครับ) แล้วกด Download It Now

กรอกเมล์ แล้วก็เลือกระบบที่เราใช้อยู่ครับ กดปุ่มสีเขียวเลย

ให้โหลดไฟล์เก็บไว้ก่อนครับ มีทั้ง Mac และ Windows ครับ แล้วก็เลือก Click here to visit giveaway page 

กรอกอีเมล์ครับ แล้วก็กรอกโค๊ดครับ กด Submit 

เย่! ได้แล้ว เราก็จะได้ License Key มาแล้ว ใช้ไปติดตั้งได้เลยครับ
เข้าไปโหลดกันได้เลยครับ ที่ SharewareOnSale


ด่วน แอพฟรี โปรแกรมฟรี Magic Camera แต่งรูปถ่าย ให้ไปใช้ได้ฟรีๆ จากราคา US$39.95

ชื่อแอพ: Magic Camera
ราคาเดิม: US$39.95 (1,300 กว่าบาท)
Limitation: เฉพาะ Home Use เท่านั้น ลงซ้ำไม่ได้ ไม่มี Support ไม่มี Update ขายต่อไม่ได้

Magic Camera เป็นโปรแกรมกล้อง webcam ใน PC หรือ Notebook ครับ เราสามารถปรับ filter หรือใส่พวก effect ตอนถ่ายรูป webcam ได้

โปรแกรมนี้ต้องการ Windows XP, 7 และ 8 ขึ้นไปนะครับ

ที่สำคัญต้องมีกล้อง Webcam นะครับ 5555

คลิก Download It Now!
กรอก email ครับ ทั้งสองช่อง แล้วก็คลิกเลือกว่าเราใช้ระบบปฏิบัติการอะไรอยู่บ้าง แล้วก็เลือกปุ่มสีเขียวเลยครับ


คลิกที่ชื่อไฟล์ครับ ส่วน License Key ก็เอาไว้ใส่ตอนติดตั้ง
 รีบๆกันหน่อยนะครับ เหลือเวลาอีก 2 วันเท่านั้น
เข้าไปโหลดที่นี่เลยครับ SharewareonSale



หลุดภาพ Office 2016 อยากใช้? ไปโหลดสิ



          มีภาพ Microsoft Office 2016 เผยแพร่ออกมาจาก Beat Group ซึ่งเป็น Private Group ซึ่งสมาชิกของกลุ่มนี้สามารถทดสอบ MS Office 2019 January Preview ได้ ซึ่งการจะเป็นสมาชิกของกลุ่มนี้ต้องมี invitation email ก่อน

         แต่ถ้าเราอยากใช้ล่ะ

         คุณ Brad Sams นักข่าวจาก Neowin รายงานว่าถ้าไม่มี invitation email เราก็สามารถสมัครได้ โดยคาดว่าน่าจะเป็นบั๊กของระบบ ทำให้เราสามารถใส่ email อะไรก็ได้เป็น invitation email


          จากภาพที่เผยแพร่ออกมา ก็ยังไม่ค่อยมีความแตกต่างจาก Office 2013 เท่าใดนัก รวมถึงยังระบุเวอร์ชั่นเป็น Office 2013 อยู่ ท่านใดสนใจก็ดูได้จากที่มาของข่าวเลยครับ

ที่มา: Neowin

Windows 10 RTM จะมาในเดือนมิถุนานี้?



         
ตอนนี้เราจะเห็นว่า Microsoft ทำงานอย่างหนักในการพัฒนา Windows 10 (MS บอกว่าจะออก Windows 10 Technical Previrew) ให้ถี่ขึ้น รวมถึงก็ยังพัฒนา Windows 10 for Phone ไปพร้อมๆกันด้วยครับ เห็นว่านักพัฒนาทำงานกันหนักหน่วง ก็เลยเกิดคำถามว่า Windows 10 จะเข็นออกมาให้เราใช้กันได้เมื่อไร

          ปกติแล้ว Microsoft เค้าจะมี Timeline ในการออกผลิตภัณฑ์อยู่ โดยทั่วไป Microsoft จะออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในเดือนสิ่งหาคม ซึ่งเป็นช่วง Back To School (ยอดซื้อเยอะ) แต่อย่างไรก็ตามผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ก็ต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือนในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะขายในช่วงวันหยุดช่วงเดือนตุลาคม ทำให้พลาดยอดขายในช่วง Back To School ไป ดังนั้นจึงอาจทำให้ MS ต้องรีบเข็น Windows ออกมาเพื่อให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์นำไปใช้ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะขายในช่วง Back To School ได้ด้วย (เช่นเดียวกับ Surface Pro 3 ที่ขายในช่วงเดือนมิถุนายน)

          อีกเหตุผลหนึ่งคือ การออก Surface Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Broadwell Chip ซึ่งเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ก็จะครบ 1 ปีที Surface Pro 3 ออกจำหน่าย ถ้า MS ออก Windows 10 ช้าก็หมายถึง Surface Pro รุ่นใหม่ต้องใช้ Windows 8.1

         แต่อย่าลืมนะครับว่า MS เค้าชอบมีโรคเลื่อน

ที่มา: Neowin

Android App Review: TuneIn Radio


Category: เพลงและเสียง
Cost: Free (แต่มี In App Purchase) 
Rating: 4.3 ดาว
Download: 50 ล้านครั้ง

มาแล้วครับ แอพฟังวิทยุออนไลน์ ฟังได้ทั้งนอก ทั้งไทย (แต่ส่วนใหญ่จะเน้นนอก) เท่าที่ลองใช้มา สัญญาน Streaming ดีมากเลยครับ ไม่ขาด รวมถึงสามารถเลือกคุณภาพเสียงได้ด้วย                        (จะเลือก 64/96/125 kBps ก็ว่ากันไป)  แอพนี้โหลดได้ฟรีที่ Google Play เลยครับ





          พอติดตั้งเสร็จ หน้า Home ก็จะมีสถานียอดฮิต หรือเป็นพวกสถานีแนะนำ จะเห็นว่ามีสถานีของสำนักข่าว BBC ด้วย เหมาะสำหรับคนฝึกฟังภาษาเลยครับ

นอกจากนี้ก็ยังมีสถานีแนะนำของไทยด้วย


อันนี้ลองเลือกสถานีในประเทศ (local radio) พบว่ามีเฉพาะสถานีในกรุงเทพนะครับ ก็มีหลายสถานีเหมือนกัน


พอเลือกตรง Music ก็จะมีให้เลือกแนวดนตรี มีตั้งแต่แนวยุค 60 70 pop rock หรือถ้าเลือก Trending ก็จะเป็นสถานีที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้นๆครับ











พอเข้าไปในสถานีที่ต้องการ ก็จะมีปุ่ม Follow ให้กด เพื่อติดตามสถานีนั้น และเราจะสะดวกในการเข้ามาฟังอีกรอบด้วยนะครับ เพราะเป็นเหมือนกันกด Favorite ไว้


พอกดเล่นจะเห็นว่าหน้าตาแอพสวยงามใช้ได้ ส่วน Tab ต่างๆ คือ
Tab Now แสดงสถานีที่เราฟังอยู่
Tab Recent แสดงสถานีที่เราเคยฟัง
Tab Following แสดงสถานีที่เรา Follow ไว้
Tab Relate แสดงสถานีที่เหมือนกับสถานีที่เราฟังอยู่
Tab Options อันนี้ผมชอบมากเพราะเราสามารถเลือกคุณภาพเสียงได้ครับ (Choose stream) ถ้าเน็ตดี หรือฟังผ่าน WiFi ก็ใช้ bit rate สูงๆได้ แต่ถ้าเน็ต 3G ก็ลดลงมาหน่อย


เป็นอย่างไรบ้างครับ ถ้าท่านใดมีคำแนะนำหรืออยากให้ review แอพประเภทใดทิ้ง comment ไว้ได้เลยนะครับ

สุดท้ายแอพนี้ ฟรี นะครับ สามารถโหลดได้ที่ Google Play เลยครับ



วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Windows 10 build 10009 มาพร้อมกับ Spartan บราวเซอร์ตัวใหม่จาก Microsoft

       
ฤา Windows 10 Technical Preview build หน้าจะมี Spartan

          Spartan เป็นโคดเนมของเว็บบราวเซอร์ตัวใหม่จาก Microsoft ครับ ซึ่งคาดว่าจะออกมาให้ใช้กันได้ภายในปีนี้ ซึ่ง Microsoft ได้เปิดตัว Spartan ในวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา สำหรับ features ของ Spartan นั้นได้แก่ การใช้ engineเว็บแบบใหม่คือ "Edge" ซึ่งทำให้สามารถแสดงผลเว็บสมัยใหม่ได้ดีขึ้น (อาจเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับนักพัฒนาเว็บ)

          ที่สำคัญ Spartan ยังไม่สนับสนุน Active X ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าแก่ตั้งแต่สมัย Internet Explorer รุ่นแรกๆ ดังนั้นเพื่อให้บางองค์กรที่ใช้ web application ที่ใช้ Active X สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น จึงต้องยังคง IE ไว้ก่อน

         นอกจากนี้ Spartan ยังได้รวมแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Microsoft เช่น Cortana (ผู้ช่วยส่วนตัว) หรือการจดโน๊ตย่อเกี่ยวกับเว็บเพจแล้วสามารถบันทึกลง OneDrive ได้ทันที ส่วน Reading List ทำให้ช่วยซิงค์ content ระหว่างเครื่องได้ สุดท้าย Reading Mode ที่จะตัดเนื้อหาในเว็บเพจที่ไม่จำเป็นออกให้เหลือแต่เนื้อหาที่จำเป็นเท่านั้น

          โดย screenshots ที่หลุดออกมาพบว่าตัว Spartan ได้รวมมาใน Windows 10 Technical Preview แล้ว โดยพบว่าคล้ายกับที่ Microsoft เปิดตัว


         นั่นแสดงว่าเราอาจจะได้ใช้ Spartan ใน Windows 10 Technical Preview รุ่นต่อไปก็เป็นได้นะครับ (หรือภาพที่เห็นอาจจะเป็นภาพตกแต่งก็ได้นะ 555)

ที่มา Winbeta ผ่าน ITHOME

เอาแล้วสิถึงคราวต้องเช่า Windows กันแล้ว

Windows 365?

          หลายคนเคยได้ยิน Office 365 ซึ่งเป็นชุด Office แบบเช่าใช้งานจาก Microsoft  โดยมีหลากหลาย version ให้เช่าใช้ โดยเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น Office 365 Home ซึ่งสนนราคา 2,499 บาทต่อปี ประกอบได้ด้วย Word, Excel, PowerPoint, OneNote, OUtlook, Publisher, Access, รวมถึงค่าโทร Skype 60 นาที พร้อมด้วย OneDrive Storage 1 TB นอกจากนี้ยังมีรุ่นราคาถูกสำหรับนักเรียนนักศึกษา คือรุ่น Office 365 University ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 2,199 บาทต่อ 4 ปี (โห ตกปีละ 500 บาท พระเจ้า) แต่ไม่สามารถนำไปใช้เชิงพานิชย์ได้


         
          มีมือดีไปพบว่า Microsoft ได้จดเครื่องหมายการค้า Windows 365 ซึ่งคาดว่าในอนาคต Windows อาจจะมีลักษณะเช่าใช้แบบ Office 365 ก็เป็นได้


          แม้วาหลายคนจะทราบแล้วว่า Windows 10 ซึ่งเป็น Windows รุ่นใหม่นั้นแจกฟรีให้กับผู้ใช้ Windows 7, 8 และ 8.1 ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่า Microsoft จะทำ Windows แบบเช่าใช้หรือไม่ หรืออาจเป็นเพียงแค่จดทะเบียนชื่อเพื่อป้องกันคนอื่นนำไปใช้ เวลาเท่านั้นคือคำตอบ...

ที่มา Neowin ผ่าน  USPTO

มาดูว่า Antivirus ตัวไหนเป็นที่ยอดนิยมในเว็บ Download.com บ้าง

Download.com เว็บนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วเป็นเว็บที่รวบรวมโปรแกรมต่างๆให้เราได้ดาวน์โหลดไปใช้กัน ซึ่งเค้าก็จะมีการจัดอันดับว่าโปรแกรมในหมวดต่างๆ ว่าโปรแกรมไหนเป็นที่ยอดนิยมบ้าง (ยอดนิยมนี่ผมดูจากยอดดาวน์โหลดแล้วกันนะครับ 555) วันนี้ก็เลยนำเสนอโปรแกรมกลุ่ม Antivirus 

ปรแกรม Antivirus ก็ตามชื่อเลยครับ ป้องกันไวรัส (จะแปลทำไมเนี่ย55) คือ ดักจับ แสกนคอมพิวเตอร์ของเราว่ามีไวรัสอยู่หรือไม่ บางตัวก็สามารถแสกนมัลแวร์ (malware) ได้ด้วยนะครับ (malware ก็คล้ายๆกับไวรัสนะครับ แต่ตัวมันมักจะไม่ค่อยทำอะไรให้คอมเสีย แต่มันจะคอยดักจับข้อมูลของเรา เช่น ดักจับเลขบัตรเครดิตขณะที่เรากรอกซื้อของออนไลน์ แล้วก็ส่งเลขของเราไปให้กับคนปล่อย malware)

วิธีการป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดคือ

  1. ไม่เข้าเว็บเสี่ยง: เว็บเสี่ยงก็เช่น เว็บโหลดโปรแกรมเถื่อน โหลดแครก โหลดเกมเถื่อน หรือพวกเว็บนุ่งน้อยห่มน้อย 
  2. ไม่คลิกมั่วๆ: เช่น ไม่เปิดไฟล์ที่ไม่รู้จัก ไม่โหลดไฟล์จากอีเมล์จากคนที่ไม่รู้จัก หรือเวลามีกล่องข้อความขึ้นก็อ่านให้ดีก่อนแล้วค่อยกดนะครับ หรือไม่ก็เวลาลงโปรแกรมไม่คลิก Next Next Yes (ติดไวรัสแน่ๆ)
  3. Handy Drive: นี่ตัวดีเลยครับ ส่วนใหญ่มักจะติดมาจากเพื่อนๆสุดที่รักของเรา 555555 ทางที่ดีคือ Scan ไวรัสก่อนครับ (วิธี scan ก็ง่ายๆครับ คลิกขวาที่ Handy Drive ใน My Computer แล้วเลือก Scan with XXXX (XXXX เป็นชื่อโปรแกรม Antivirus ที่ท่านลงนะครับ)
  4. แค่นี่ล่ะครับ ก็สามารถป้องกันเราจาก virus ได้แล้ว
มาเข้าเรื่องของเรากันครับ
ผมก็ได้ไปดูว่าใน Download.com มี Antivirus ตัวไหนที่ Top 5 บ้าง ได้ผลดังนี้ครับ

พบว่า TOP 5 ของเรานั้น มี 4 ตัว เป็น Free Antivirus (อันดับ 1 ถึง 4) โดย AVG Antivirus อยู่ใน TOP 5 ทั้งสองแบบ (แบบฟรีอันดับหนึ่ง แบบไม่ฟรีอันดับห้า) 

นอกจากนั้นก็เป็น Antivirus เจ้ายอดนิยม เช่น Avast, Avira ส่วน Ad-Aware เมื่อก่อน (นานมาแล้วผมเคยได้ยินถึงกิติศัพท์ว่ากำจัด malware เป็นเลิศ ตอนนี้ก็โดดมาร่วมวง Antivirus กับเค้า ซึ่งไม่รู้ว่านานหรือยัง เพราะผมอาจตกข่าว 5555) 

จากอันดับ TOP 5 จาก Download.com ก็อาจทำให้หลายๆท่านเลือกใช้ Antivirus ได้ง่ายขึ้นนะครับ โดยเฉพาะ Free Antivirus ซึ่งก็ได้รับความนิยมพอสมควร (ที่จริงนิยมมาก) แต่ตัว Free ก็อาจถูกตัดความสามารถบางอย่างออกไป เช่น Firewall (ปราการป้องกันข้าศึกบุก) 

อย่างไรก็ตามผมว่า Free Antivirus ก็เหลือเฟือแล้วครับ ร่วมกับระมัดระวังตัวเอง ตามที่ผมแนะนำไว้ 3-4 ข้อด้านบน

ว่างๆผลจะมาบอกนะครับว่าถ้าจัดอันดับแบบละเอียดโดยสำนักต่างๆ Antivirus ตัวไหนอยู่อันดับไหนบ้าง 

เหม็น เหม็น ขยะในคอมของเรา [Disk Cleanup]

เหม็น เหม็น เหม็น เหม็น 
รก รก รก 
ช้า ช้า
แย่!
(C) AmsterSam The Wicked Reflectah @ flickr 
เกริ่นที่หัวอย่าเพิ่งตกใจนะครับ ที่เหม็นนี่ไม่ใช้ใครเอาขยะ หรือเศษกระดูกไก่มายัดในคอมของเรานะครับ แต่เปรียบเทียบเฉยๆว่า คอมเราก็มีขยะเช่นกัน 5555
  • ขยะที่ว่านี่คือไฟล์ขยะนะครับ 
  • ไฟล์ขยะได้แก่อะไรบ้าง ก็อย่างเช่น พวกไฟล์ที่โลหดมาตอนที่เราเปิดหน้าเว็บ อาจเป็นรูปภาพ ไฟล์ HTML (หน้าเว็บ) หรือไม่ก็พวกไฟล์ชั่วคราวที่ Windows สร้างขึ้นมานั่นเอง 
  • พอเรามีไฟล์ขยะสะสมมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ ฮาร์ดดิสก์เต็ม คอมช้า 
  • ซึ่งไฟล์พวกนี้เราสามารถลบได้อย่างปลอดภัยครับ แต่ไม่ใช่ว่าจะให้ไปนั่งหาบลที่ละไฟล์ก็เสียเวลาอยู่ เราก็ใช้เครื่องมือของ Windows เลยครับ ชื่อว่า Disk Cleanup
Disk Cleanup
  • เป็นเครื่องมือพื้นฐานใน Windows ครับ ติดมากับ Windows ทุกเวอร์ชั่น แต่ในที่นี้จะเป็นของ Windows 8 นะครับ ส่วน Windows อื่นๆก็คล้ายๆกัน
  • วิธีการเรียกใช้ ทำได้โดย
  1. คลิกขวาที่ไดร์ฟที่เราต้องการทำความสะอาด
  2. เลือก Properties

  3. จากนั้นเลือก Disk Cleanup
     
  4. มาแล้ว อิอิ (รอแป๊ปนึงนะครับ)
  5. จากนั้นเราก็เลือกว่าจะลบอะไรบ้าง ซึ่งโปรแกรมจะเลือกมาเป็นค่าตั้งต้นให้เราแล้วบางตัว เช่น 
  • Temporary Internet File ก็เป็นพวกไฟล์หน้าเว็บเพจต่างๆที่เราเคยเปิดเข้าไปดู 
  • Temporary Files ก็เป็นพวกไฟล์ขยะที่ Windows สร้างขึ้นมาก หรืออาจเป็นพวกไฟล์ที่เหลือจากการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ 
  • บางครั้งก็อาจมีไฟล์ที่เกี่ยวกับ Error เช่น Error Report อันนี้ Windows จะสร้างขึ้นตอนที่คอมพิวเตอร์เราแฮงค์ หรือทำงานผิดปกติ 
  • ซึ่งทั้งหมดเนี่ยเราสามารถลบได้อย่างปลอดภัยครับ

  • จะเห็นว่าพอเราเลือก เราก็จะมีพื้นที่ฮาร์ดดิสก์เหลือเพิ่มขึ้น โดยดูได้จาก Total amount of disk space you gain ครับ จะบอกเป็น MegaByte (MB) ที่เราจะได้คืนครับ ข้างบนนี่ผมจะได้คืน 58.1 MB ครับ (เยอะไหม 5555) เสร็จแล้วกด OK เลยครับ
  • ก็จะมีหน้าต่างมาถามว่าจะลบถาวรหรือไม่ ลบสิครับ รออยู่ทำใย 55 กด Delete Files ให้ขยะหายไปจากเครื่องของเราเลยครับ

มาจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์กันดีกว่า (disk defragmenter)

หลายคนมีคำถามว่า ????

  • ใช้คอมไปเรื่อยๆแล้วทำไมมันช้าจัง
  • ข้อมูลเยอะทำให้คอมช้าหรือไม่
  • เขียนๆลบๆข้อมูลทำให้คอมช้าหรือไม่
  • ทำไมกว่าจะเปิดไฟล์ ถึงใช้เวลานาน
คำตอบของคำถามเหล่านี้ คือ
  • คอมมันเก่าน่ะ (หาเรื่องเปลี่ยนใหม่เลยสิ)
  • แรมไม่พอ ซีพียูตกรุ่น (ใช้มานานแล้ว 4-5 ปี) พอลงโปรแกรมใหม่ๆก็ใช้แรมเพิ่มขึ้น
  • ไวรัส (พอคอมช้าหลายคนจะนึกถึงสิ่งนี้เป็นอย่างแรก 555)
  • มัลแวร์
  • หรือหลายๆเหตุผลที่บางคนไม่เคยคิดถึง เช่น ข้อมูลบนดิสก์ไม่เป็นระเบียบ นั่นเอง
ข้อมูลบนดิสก์ไม่เป็นระเบียบ คือ?
  • ง่ายๆ ฮาร์ดดิสก์ก็เหมือนตู้เก็บของ ถ้าเราจัดมันเป็นระเบียบ มันก็หาของง่าย แต่ถ้าไม่จัด หรือปล่อยให้รก มันก็หายากเป็นธรรมดา
  • เทียบง่ายๆ เช่น แปรงขัดรองเท้ากับน้ำยาขัดรองเท้าจะต้องใช้ร่วมกัน ถ้ามันอยู่ใกล้ๆกัน อยู่คู่กัน เก็บในที่เดียวกัน มันก็หาง่าย ได้ขัดรองเท้าเร็ว ไม่เสียเวลาหา งานก็เสร็จเร็ว
  • แต่ถ้าแปรงกับน้ำยาอยู่คนละที่ ลองนึกดูสิ กว่าจะหาเจอ บางครั้งปาไป 10 นาที ยังหาไม่เจอ กว่าจะได้ขัดรองเท้า ก็นานู่
  • พอมาเทียบในคอมก็เช่น ไฟล์ A กับ ไฟล์ B เป็นไฟล์สำคัญของโปรแกรม M ต้องรันคู่กันโปรแกรมจึงจะทำงานได้ พอเราคลิกเปิดโปรแกรม M ฮาร์ดดิสก์ก็จะหาว่าไฟล์ A และ B ตรงไหน พอหาเจอก็อ่านไฟล์ Bla bla... ทำให้โปรแกรมทำงานได้ ถ้าไฟล์ A กับ B มันอยู่คนละที่ล่ะ อยู่ห่างกันเป็นโยชน์ กว่าจะเจอ เห้อ มันจึงเปิดโปรแกรมช้าขึ้น
แก้ไข?? 
  • ใช้โปรแกรม defragmenter ต่างๆ เช่น defragmenter ของ Windows เอง หรือไปดาวน์โหลดเอาก็ได้ ง่ายๆแค่นี้เอง
Review Defragmenter ของ Windows
ใครใช้ Windows ไม่ว่าจะเป็นรุ่นดึกดำบรรพ์ เช่น 95 98 me หรือกึ่งดึกดำบรรพ์ ได้แก่ XP หรือใหม่ซิงๆ เช่น 7, 8 จะมีโปรแกรมนี้มาให้ท่านอยู่แล้ว อิอิ (ในนี้จะเป็นของ Windows 8 นะครับ)

1. เปิด This PC

 

2. คลิกขวาไดรฟ์ที่เราต้องการจัดเรียงข้อมูล


3. เลือก Properties ก็จะแสดงหน้า Properties ของไดร์ฟที่เราเลือกขึ้นมา จากนั้นให้เลือก Tools บน     แท็บด้านบน จะเห็นว่ามี Optimize and defragment drive นี่ไงที่เราต้องการ กด Optimize โดยฉับพลัน


4. หลังจากนั้นจะเห็นว่าจะให้เลือกไดร์ฟ ให้เลือกไดร์ฟที่เราต้องการ หรือจะเลือกทุกไดร์ฟก็ได้ การเลือกให้ defrag หลายๆไดร์ฟพร้อมกัน ทำได้โดยใช้เมาส์ลากดำ หรือ กด Ctrl ร่วมกับคลิกเลือกไดร์ฟที่ต้องการ
ปุ่ม Annalyzed คือเป็นการตรวจสอบว่าข้อมูลมีการกระจัดกระจายเท่าไร กี่%
ปุ่ม Optimize คือปุ่มสั่งให้จัดเรียงข้อมูล


ส่วนปุ่ม Change setting จะให้เราเลือกว่าจะกำหนดให้โปรแกรมจัดเรียงข้อมูลอัติโนมัติเมื่อไรบ้าง ให้ทำที่ไดร์ฟไหน


รูปด้านบนตั้งให้เรียงข้อมูลอัตโนมัติไว้ทุกสัปดาห์

4. จากนั้นพอเราเลือกเสร็จแล้วว่าเราจะจัดเรียงข้อมูลไดร์ฟไหน ก็กด Optimize เลย 



5. จากนั้นก็รอ รอ รอ แล้วก็รอ (ความเร็วขึ้นกับความรกของข้อมูล และประสิทธิภาพของเครื่องท่าน)
คำแนะนำ ระหว่างการจัดเรียงข้อมูลควรทิ้งคอมไว้เฉยๆ นะจิ๊

และแล้วก็เสร็จแล้ว

จะเห็นว่าตอนนี้ไดร์ฟ C ของเราขึ้น Last run เป็นวันที่เราจัดเรียงข้อมูล และจะเห็นว่าไม่มีข้อมูลที่กระจัดกระจายแล้ว เย่!!!!! (current status OK, 0% fragmented) 

บทความหน้าจะแนะนำโปรแกรม defragmenter อื่นๆนะครับ